วินด์ฟาร์มใหญ่ที่สุดทางภาคตะวันตกของจีน

2019-10-08 09:55:32 | CMG
Share with:

图片默认标题_fororder_20191008风能1

เขตต๋าปั่นเฉิง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองอุรุมชี เมืองเอกเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียงของจีน ประมาณ 100 กิโลเมตร เป็นเมืองสำคัญตามเส้นทางสายไหมในสมัยโบราณ เขตนี้ขึ้นชื่อเรื่องลมแรง ชาวท้องถิ่นมักจะแซวกันว่า เขตนี้มีลมปีละครั้ง ครั้งละหนึ่งปี หากเป็นลมเบา ๆ ต้นไม้จะเอียง หากเป็นลมแรง ก้อนหินจะลอยได้ เมื่อออกไปข้างนอก ต้องถ่วงก้อนหินใหญ่ไว้ในกระเป๋า

สถิติระบุว่า เขตต๋าปั่นเฉิง มีวันที่ลมแรงเฉลี่ยปีละ 150 วัน มากที่สุดต่อปีถึงกว่า 200 วัน ความเร็วลมเฉลี่ยทั้งปีสูงถึง 6.2 เมตรต่อวินาที และมีลมแรงมากที่สุด 30 เมตรต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ทางการเขตซินเจียง ได้ใช้ความเสียเปรียบเป็นความได้เปรียบ พัฒนาพลังงานลมในเขตนี้สร้างเป็นวินด์ฟาร์มขนาดใหญ่ที่สุด โครงการดังกล่าวส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในท้องถิ่น ทำให้ในปัจจุบัน เขตต๋าปั่นเฉิง กลายเป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งพลังงานไปพร้อมกัน  พลังงานลมมีลักษณะสะอาดและใช้ได้ไม่มีวันหมด ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการกำเนิดไฟฟ้าด้วยพลังงานลมของจีน "ลม" ได้กลายเป็นนามบัตรของเขตต๋าปั่นเฉิงไปด้วย

วินด์ฟาร์มแห่งนี้ ดำเนินการโดยบริษัทจินเฟิง (Gold Wind)  บริษัทผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแห่งแรกของจีน ซึ่งก่อขึ้นในปี ค.ศ. 1998  และเริ่มผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วยตนเองได้ตั้งแต่ปี 1999 ปัจจุบัน ส่งออกเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไปยัง 24 ประเทศ ใน 6 ทวีปทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย วินด์ฟาร์มแห่งนี้ มีกังหันลมผลิตไฟฟ้า 3 ขนาด  ทั้งหมดกว่า 1,000 ตัว นอกจากวินด์ฟาร์มแล้ว บริษัทฯ ยังมีพิพิธภัณฑ์กังหันลมผลิตไฟฟ้า เพื่อให้ความรู้พื้นฐานด้านพลังงานลมแก่เด็ก ๆ ในโรงเรียนประถมและมัธยมที่อยู่รอบข้างอีกด้วย

图片默认标题_fororder_20191008风能2

เสากังหันลมผลิตไฟฟ้ามีความสูง 40-140 เมตร ตามขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าที่ต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเสาไม่เกิน 4 เมตร ใบพัดของกังหันลมมีความยาวกว่า 50 เมตร ถึงมีขนาดใหญ่ แต่ที่จริงแล้ว ลมที่มีความเร็ว 3 เมตรต่อวินาที ก็สามารถทำให้กังหันลมเหล่านี้เริ่มทำงานได้แล้ว ยิ่งลมแรง ยิ่งกำเนิดไฟฟ้าได้มาก แต่เนื่องจากปัจจัยด้านความปลอดภัย กังหันลมผลิตไฟฟ้าเหล่านี้จึงถูกจำกัดว่า หากลมแรงเกินกว่า 25 เมตรต่อวินาที  จะหยุดทำงานทันที นอกจากนี้ ขีดความสามารถในการผลิตพลังงานของกังหันลมแต่ละตัวก็ไม่เท่ากัน หากเป็นกังหันลมขนาด 1,500 kw  ใบพัดหมุน 1 รอบ จะผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 2 หน่วย หากเป็นกังหันลมขนาด 2,000 kw ใบพัดหมุน 1 รอบ จะผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 3 หน่วย และหากเป็นกังหันลมขนาด 3,000 kw ใบพัดหมุน 1  รอบ จะได้ผลิตพลังงานไฟฟ้าประมาณ 4 หน่วย ยิ่งไปกว่านั้น กังหันลมผลิตไฟฟ้ายังมีขนาดและความสูงต่างกัน ส่วนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับใบพัดจะมีรูปทรงต่างกันด้วย เนื่องจากกังหันลมผลิตไฟฟ้ามีขนาดใหญ่ เวลาติดตั้งต้องทิ้งระยะห่างออกจากกันค่อนข้างไกล เพื่อจะได้ไม่กระทบต่อกระแสลมระหว่างการทำงาน และกระทบต่อความปลอดภัย หรือ ต่อประสิทธิภาพในการกำเนิดไฟฟ้า

图片默认标题_fororder_20191008风能3

กังหันลมผลิตไฟฟ้าแต่ละตัวออกแบบให้มีอายุการใช้งานอย่างปลอดภัยเป็นเวลา 20 ปี แต่ที่จริงแล้ว สามารถทำงานได้นานกว่านี้  เพราะฉะนั้น จึงสำคัญอย่างมากที่จะตรวจสอบการทำงาน และทำการบำรุงรักษาเป็นประจำ แต่ละเดือนเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการทำงานว่าเป็นปกติดีหรือไม่ พร้อมตรวจสอบสภาพการสึกหรอของเครื่อง หรือ  ใบพัด ทุกครึ่งปี เจ้าหน้าที่จะซ่อมบำรุงเล็ก และทุก 1 ปี จะต้องมีการซ่อมบำรุงใหญ่ ซึ่งในอดีต การตรวจสอบและซ่อมบำรุงจะดำเนินการโดยมนุษย์ เจ้าหน้าที่จะขึ้นไปยังเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้านบนของกังหันลมทุกตัวเพื่อตรวจสอบด้วยตนเอง จึงถือเป็นงานหนัก แต่ในปัจจุบัน  บริษัทจินเฟิงได้บุกเบิกระบบการตรวจสอบการทำงานด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ จึงเป็นการลดภาระของเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างมาก

ปัจจุบัน พลังงานใหม่ เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์  พลังงานมหาสมุทร และพลังงานความร้อนใต้พิภพ ถือเป็นกระแสการพัฒนาของโลก ขณะเดียวกันยังมีประเทศจำนวนมากขึ้นตระหนักถึงความสำคัญของพลังงานสีเขียว เพื่อร่วมแรงร่วมใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และพิทักษ์โลกมนุษย์ไปพร้อมกัน

Tim/Ldan

00:00:00

  • เสียงข่าวประจำวัน (07-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (07-06-2565)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (07-06-2565)

  • เสียงข่าวประจำวัน (06-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (06-06-2565)

郑元萍