บทบาทจีนในช่วงระเบียบโลกเปลี่ยนแปลง (2)

2020-07-07 19:30:25 | CRI
Share with:

图片默认标题_fororder_7777

กลไกดั้งเดิมในการจัดการและบริหารกิจการระหว่างประเทศไม่สอดคล้องกับความต้องการของสถานการณ์โลกปัจจุบัน    นอกจากนี้ ประเทศสำคัญบางประเทศจัดการกับประเด็นปัญหาระหว่างประเทศในทางที่ผิด  ยิ่งทำให้ประเด็นปัญหาระหว่างประเทศหลายปัญหาขยายวง และสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น  การขยายตัวของอิทธิพลกลุ่มก่อการร้าย และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ล้วนเป็นเพราะประเด็นปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมตั้งแต่เริ่มแรก     ในแง่ระเบียบโลก  เราต้องมาพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้ 

1.ปัจจัยสหรัฐฯ   หลังสิ้นสุดสงครามเย็น   สหรัฐฯเป็นผู้ครอบงำกิจการระดับโลกต่างๆ    ดังนั้น   สหรัฐฯต้องรับผิดชอบในระดับสูงต่อการไม่เป็นระเบียบของโลกที่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบัน   ก่อนอื่น  ความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯกำลังลดน้อยลง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสหรัฐฯทำสงครามในอิรักและอัฟกานิสถาน    นอกจากนี้           ความขัดแย้งระหว่างสองพรรคการเมืองในสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนในการกำหนดนโยบายของสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น    กระบวนการในการพิจารณาสถานการณ์โลกของสหรัฐฯมีประสิทธิภาพน้อยลง    สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้คือ   สหรัฐฯเกิดความผิดพลาดในการตัดสินแนวโน้มแห่งการพัฒนาของโลกหลังสงครามเย็น   โดยยังคงยึดติดกับแนวความคิดสงครามเย็น    และพยายามครอบงำโลกด้วยวิธีการทางการทหาร  รวมทั้งพยายามเผยแพร่แนวความคิดทางการเมือง และค่านิยมของตนในขอบเขตทั่วโลก   เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเอง     หากกล่าวว่า ปี2014 เป็นจุดเปลี่ยนของระเบียบโลก  สาเหตุที่สำคัญที่สุดคือ   แนวทางเดิมในการครอบงำโลกของสหรัฐฯประสบความล้มเหลวแล้ว   

2.ปัจจัยเกี่ยวกับประเทศที่เจริญขึ้นใหม่ ซึ่งรวมถึงประเทศจีนด้วย   เมื่อปี 2010  จีนพัฒนาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก  หากคำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนของตลาด  ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศที่เจริญขึ้นใหม่คิดเป็น50% ของทั่วโลก  แม้ความสามารถในการบริหารโลกของพลังอำนาจเดิม เช่น สหรัฐฯได้ลดลงแล้ว    แต่พลังอำนาจเหล่านี้ไม่ได้เปิดโอกาสให้ประเทศที่เจริญขึ้นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารโลก   ส่วนทางด้านประเทศที่เจริญขึ้นใหม่ก็ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะเข้ามาแสดงบทบาทนำในการบริหารโลก       ประเทศที่เจริญขึ้นใหม่ส่วนใหญ่เป็นประเทศกำลังพัฒนา    ประเทศเหล่านี้ไม่เห็นด้วยกับแนวทางในการบริหารโลกของประเทศตะวันตก   จึงไม่เต็มใจที่จะเข้าไปเติมช่องว่างในการบริหารโลกที่เกิดขึ้น     ดังนั้น  การบรรลุความเห็นพ้องต้องกันในประเด็นการแก้ไขและปรับปรุงระเบียบโลกนั้นยังมีทางอีกไกลที่ต้องเดิน  

3. ปัจจัยที่เกี่ยวพันกับพลังอำนาจอื่น  เช่น สหภาพยุโรป  ญี่ปุ่น และรัสเซีย  ประเทศเหล่านี้มีพื้นฐานอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง   สนใจและมีประสบการณ์ในการจัดการกับกิจการระหว่างประเทศต่างๆ     แต่หลายปีมานี้   หลายประเทศดังกล่าวตกอยู่ในสภาวะยากลำบาก  ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะมาช่วยจัดการกับกิจการระดับโลก      ประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมากกว่า     จึงมักจะพิจารณากิจการระหว่างประเทศตามทีละเรื่อง  ดังนั้น  พลังอำนาจขั้วที่ 3 ของโลกยังไม่ได้เกิดขึ้น

图片默认标题_fororder_8888

ช่วงหลายปีมานี้เป็นช่วงที่สถานการณ์โลกมีความวุ่นวายและมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง หากจัดการเรื่องเล็กบางเรื่องอย่างไม่เหมาะสม เรื่องเล็กก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่   ช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงที่จีนต้องการมีสันติภาพและเสถียรภาพมากเป็นพิเศษ  เพราะปี2020 เป็นปีที่จีนจะบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษเป้าหมายแรกในการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน ดังนั้น   แนวโน้มของสถานการณ์โลก และความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศต่างๆทั่วโลกในช่วงหลายปีข้างหน้ามีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาของจีนในอนาคต 

ในอนาคต  สหรัฐฯจะพัฒนาไปทางไหน  ?   คงมีความเป็นไปได้สองแบบ  ความเป็นไปได้แบบแรกคือ  จากการบริหารด้วยดีสักระยะหนึ่ง  สหรัฐฯสามารถรักษาแนวโน้มการฟื้นฟูทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งต่อไป   ค่อยๆ ฟื้นฟูพลังของประเทศชาติ   และกระชับความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตร เช่น สหภาพยุโรปและญี่ปุ่นอีกครั้ง   รวมทั้งสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในประชาคมโลกขึ้นมาใหม่   หากประเทศอื่นไม่สามารถปรับนโยบาย หรือมีความผิดพลาดเกิดขึ้น  สหรัฐฯอาจสามารถกลับมามีอำนาจในการควบคุมกิจการระหว่างประเทศอีกครั้ง   ในยุคสงครามเย็น  สหรัฐฯครอบงำโลกโดยแพร่ขยายอิทธิพลของเขาในภูมิภาคมหาสมุทรแอตแลนติก และมหาสมุทรแปซิฟิก      หลังสงครามเย็น  สหรัฐฯเน้นความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคมหาสมุทรแอตแลนติก ต่อมา  สหรัฐฯหันไปให้ความสำคัญกับภูมิภาคตะวันออกกลาง   และปัจจุบัน  เมื่อพิจารณาถึงความสำคัญของภูมิภาคเอเชีย  สหรัฐฯเริ่มหันมาสนใจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก  ในอนาคต  บทบาทของสหรัฐฯบนเวทีโลกขึ้นอยู่กับว่า สหรัฐฯสามารถฟื้นฟูพลังรวมแห่งชาติของเขามากน้อยเพียงใด   ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากจีนและประเทศอื่นทั่วโลก  

图片默认标题_fororder_9999

ความเป็นไปได้แบบที่สองคือ  สหรัฐฯอ่อนแอลงต่อไป และกลายเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่สำคัญ   ช่วงเวลานี้  การฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังไม่แข็งแกร่งมากพอ     ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่งคือ  การกระทำของสหรัฐฯที่ใช้สองมาตรฐานในกิจการระหว่างประเทศ และถือประโยชน์ของตนเหนือสิ่งอื่นใดนั้นส่งผลกระทบทางลบต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ   และไม่สอดคล้องกับแนวโน้มที่ต้องการสันติภาพและการพัฒนาของโลก  ด้วยสาเหตุเหล่านี้  หากสหรัฐฯไม่ปรับปรุงนโยบายของตน       คงยากที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาคมโลก  

จีนและสหรัฐฯต่างมีบทบาทสำคัญในโลก    สองประเทศนี้จะมองตนเอง และอีกฝั่งหนึ่งเป็นอย่างไรนั้นจะส่งผลกระทบถึงแนวทางการพัฒนาของโลกในอนาคต   นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯเคยมีการพูดคุยกันหลายครั้งถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่ในรูปแบบใหม่    ซึ่งถือเป็นวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ที่กว้างไกล  อย่างไรก็ตาม  จีนและสหรัฐฯยังต้องมีการพูดคุยเจรจา และความร่วมมือกันมากขึ้น  จึงสามารถบรรลุเป้าหมายตามแนวความคิดดังกล่าวได้

(yim/cai)

 

 

00:00:00

  • เสียงข่าวประจำวัน (07-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (07-06-2565)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (07-06-2565)

  • เสียงข่าวประจำวัน (06-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (06-06-2565)

周旭