กรุงปักกิ่งเป็นเมืองหลวงของจีน เป็นทั้งศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของจีน ที่กรุงปักกิ่ง มีบุคคลดีเด่นจำนวนมาก ซึ่งมีคุณธรรมประจำใจ ยินดีช่วยเหลือคนอื่น ยอมอุทิศตนโดยไม่หวังผลตอบแทน และแสวงความก้าวหน้าอย่างไม่ลดละ พวกเขาเป็นคนธรรมดาสามัญและทำงานในตำแหน่งที่ธรรมดา แต่เนื่องจากมีบุคคลเหล่านี้ กรุงปักกิ่งจึงเป็นเมืองที่มีพลังชีวิต และความยิ่งใหญ่

หลายปีที่ผ่านมา ทางการปักกิ่งได้ประเมินและคัดเลือก “บุคคลตัวอย่างแห่งกรุงปักกิ่ง” ทุกปี และจัดกิจกรรมเผยแพร่ประสบการณ์ของบุคคลดีเด่นเหล่านี้ เพื่อให้ผู้คนทั้งสังคมได้เรียนรู้และเอาเป็นแบบอย่างที่ดี ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา มีผู้คนแวดวงต่างๆ จำนวนกว่า 600 ที่ได้รับคัดเลือกเป็น “บุคคลตัวอย่างแห่งกรุงปักกิ่ง” บุคคลเหล่านี้อุทิศตนเพื่อประชาชนและประเทศชาติ สร้างอิทธิพลสูงต่อการพัฒนาทางสังคม และสร้างความซาบซึ้งใจแก่ผู้คนทั้งเมืองอย่างลึกซึ้ง ในรายการวันนี้ ขอนำเสนอผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็น “บุคคลตัวอย่างแห่งกรุงปักกิ่ง” จำนวนหนึ่ง

นายเซี่ย เหลียงจื้อ ผู้เชี่ยวชาญด้านชีวเวชภัณฑ์ ได้ใช้เวลา 15 ปีวิจัยและผลิตยารักษาโรคฮีโมฟีเลีย(โรคเลือดออกง่ายหยุดยาก) ในราคาถูกเป็นผลสำเร็จ นำผลประโยชน์แก่ผู้ป่วยจำนวนมหาศาลอย่างแท้จริง หลายปีมานี้ นายเซี่ย เหลียงจื้อทำงานสัปดาห์ละ 7 วัน วันละกว่า 12 ชั่วโมงมาโดยตลอด เขาทุ่มเทกำลังและเวลาของตนเกือบทั้งหมดในงานวิจัย ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นายเซี่ย เหลียงจื้อได้วิจัยและผลิตโปรตีนรีคอมบิแนนท์กว่า 5,000 ชนิด และแอนติบอดี รีเอเจนต์ในคุณภาพสูงกว่า 8,000 ชนิด เขามักจะบอกว่า หากหวังจะได้ผลงานจำนวนหนึ่ง คงต้องใช้ความพยายามตลอดชีวิต

นายเฉิง จิง ผู้เชี่ยวชาญด้านไบโอชิปของสถาบันวิศวกรรมศาสตร์จีน ทำการวิจัยไบโอชิปของจีนเองในห้องปฏิบัติการมหาวิทยาลัยชิงหวาเป็นเวลาหลายสิบปี ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทีมวิจัยของนายเฉิง จิงมีผลงานวิจัยที่มีสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของจีนเองหลายสิบประการ ซึ่งประยุกต์ใช้ในกว่า 30 ประเทศและเขตแคว้นทั่วโลก เขาบอกว่า ต้องยอมรับว่า จีนกับประเทศตะวันตกยังมีช่องว่างในเทคโนโลยีด้านนี้ พวกเราจึงต้องทุ่มเทกำลังอย่างไม่ลดละเพื่อตามให้ทัน

นายเกา เฟิ่งหลิน ช่างเทคนิคด้านการบินอวกาศของจีน ช่วง 37 ปีที่ผ่านมา ได้เชื่อมต่อเครื่องยนต์ให้กับจรวดขนส่งของจีนกว่า 130 เครื่อง โดยขจัดความยากลำบากด้านเทคนิคกว่า 200 ประการ ในงานแสดงสิ่งประดิษฐ์นานาชาติเมืองนูเรมเบิร์กของเยอรมนีปี 2014 เขาได้รับรางวัลยอดเยี่ยม 3 ประการพร้อมกัน เขากล่าวว่า ยุคใหม่ได้นำโอกาสแก่พวกเรา เรามีภาระหน้าที่สำคัญ และรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่มีโอกาสอุทิศกำลังในการสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ

ความสุขเป็นสิ่งที่ต้องแสวงหาด้วยความพยายาม ทั้งนี้แสดงให้เห็นในกลุ่มบุคคลตัวอย่างแห่งกรุงปักกิ่งเช่นกัน บุคคลเหล่านี้ได้แสดงความอดทนและการฟันฝ่าต่อสู้ที่ไม่ลดละในชีวิตการงานของตนอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นที่น่าศึกษาสำหรับผู้คนทั้งสังคม

นายเลี่ยว หลี่ฉุน บุกเบิกธุรกิจด้วยตนเองตั้งแต่อายุ 28 ปี ปัจจุบัน เป็นนักธุรกิจดีเลิศ ซึ่งไม่เพียงสนใจธุรกิจของตนอย่างเดียว หากยังอุทิศตนในการอนุรักษ์ภาวะแวดล้อมด้วย ทะเลทรายหุนซั่นต๋าเค่อของมองโกเลียใน เป็นทะเลทรายที่ใกล้กับตัวเมืองปักกิ่ง หากตอนเช้าเกิดพายุทราย  ตอนเที่ยงก็จะพัดมาถึงตัวเมืองปักกิ่ง

นายเลี่ยว หลี่ฉุนได้ลงทุนกว่า 20 ล้านหยวน ในการปลูกต้นไม้ในบริเวณรอบข้างทะเลทรายหุนซั่นต๋าเค่อ ช่วงเมษายนถึงพฤศจิกายนของทุกปี ทีมอาสาสมัครปลูกป่าที่นำโดยนายเลี่ยว หลี่ฉุนไปทำงานในเขตหุนซั่นต๋าเค่อเกือบทุกสัปดาห์ ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เขาเคยนำอาสาสมัคร 12,000 คนไปปลูกต้นไม้กว่า 1,300,000 ต้น เพื่อสร้างแถบป้องกันสีเขียวแก่อากาศกรุงปักกิ่ง เดือนสิงหาคม ปี 2018 นายเลี่ยว หลี่ฉุนยังบริจาคต้นไม้ที่ปลูกไว้ในเขตมองโกเลียใน 2 แสนต้นแก่ชาวปศุสัตว์และทางการท้องถิ่น เขากล่าวว่า หวังว่าการกระทำของตนจะมีบทบาทเสริมจิตสำนึกของผู้คนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ดร.จาง เสี่ยวเยี่ยน ผู้เชี่ยวชาญแผนกโรคผิวหนังของโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น มีความปรารถนาสำคัญว่า ให้ผู้ป่วยในเขตเขาเขตยากจนได้รับทรัพยากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลใหญ่ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 ดร.จาง เสี่ยวเยี่ยนริเริ่มจัดตั้ง “คณะอาสาสมัครบริการทางการแพทย์เขตชุมชนทั่วประเทศจีน” โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ที่มีชื่อเสียงทั้งหลายของโรงพยาบาลใหญ่ต่างๆ ในระยะเวลา 1 ปีกว่า คณะอาสาสมัครก็มีสมาชิกจากสิบกว่าคนเพิ่มถึง 900 กว่าคน ปีหลังๆนี้ ทีมอาสาสมัครของดร.จาง เสี่ยวเยี่ยนมีการเดินทางเป็นระยะทางหลายแสนกิโลเมตร เดินทางถึงท้องที่ต่างๆทั่วประเทศจีน ให้การรักษาแก่ผู้ป่วยในเขตยากจนท้องที่ต่างๆกว่า 10,000 คน และอบรมผู้รักษาพยาบาลในท้องถิ่นกว่า 5,000 คน

นายอี หราน ผู้อำนวยการคณะกรรมการผู้อยู่อาศัยเขตชุนชนหลงเจ๋อหยวน เขตชางผิง คณะกรรมการผู้อยู่อาศัยชุมชนดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ทำงานเพียง 8 คน ช่วงเกิดการระบาดโควิด-19 ปีนี้ นายอี หรานกับเพื่อนร่วมงานไปถึงบ้านทุกหลังในทั้งเขตชุมชน เพื่อตรวจยืนยันข้อมูลการเดินทางของแต่ละคนเป็นจำนวนกว่า 5,700 คน แจกบัตรเข้าออกเขตชุมชน 6,274 ใบ ตรวจข้อมูลผู้เข้าออกเขตชุมชนวันละกว่า 2,000 คน จดทะเบียนแก่ผู้เดินทางกลับบ้านจากต่างถิ่นจำนวนร่วม 5,000 คน ขณะเดียวกัน ยังต้องดูแลผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกกว่าสิบคน และช่วยรับส่งสิ่งของจำเป็นแก่ผู้ถูกกักบริเวณหลายร้อยคน

นายอี หรานกล่าวว่า เรื่องราวต่างๆของเขตชุมชน ถึงจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้อยู่อาศัยในเขตชุมชน ซึ่งอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของแต่ละครอบครัว ตลอดจนเสถียรภาพของทั้งสังคม

นายจาง เจียซิน ตัวแทนวัยรุ่นผู้ริเริ่มโครงการสงเคราะห์ผู้สูงวัย ช่วงที่ยังเป็นนักศึกษาปี 3 ก็เริ่มจัดโครงการช่วยเหลือผู้สูงอายุด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยช่วยเหลือผู้สูงอายุให้เรียนรู้การใช้โทรศัพท์มือถือ การเล่นอินเตอร์เน็ต และการชำระเงินออนไลน์ เป็นต้น ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โครงการสงเคราะห์ผู้สูงอายุของนายจาง เจียซินได้ดึงดูดอาสาสมัครจากมหาวิทยาลัยใน 19 มณฑลกว่า 100 แห่งเข้าร่วม ช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19 เขานำอาสาสมัคร 500 คนไปเข้าร่วมงานป้องกันและควบคุมโรค โดยเผยแพร่ความรู้ป้องกันโรคและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุที่พบความยากลำบากในชีวิตประจำวันวันละกว่า 10 ชั่วโมง เขาหวังว่า ด้วยความพยายามของพวกเขา หวังว่าผู้สูงอายุต่างๆ จะไม่โดดเดี่ยวและรู้สึกมีความสุขกับการอยู่สังคมทันสมัย

Yim/Sun