“ฉงชิ่ง”มหานครใหญ่สุดของจีน

2020-09-01 14:14:00 | CRI
Share with:

“ฉงชิ่ง” มหานครใหญ่สุดของจีน_fororder_09021

นครฉงชิ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ตอนต้นของแม่น้ำฉางเจียง หรือ แม่น้ำแยงซี ถือเป็น 1 ใน 4 นครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลางของจีน เช่นเดียวกับ กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และนครเทียนจิน

นครฉงชิ่งมีพื้นที่กว่า 8 หมื่นตารางกิโลเมตร คิดเป็น 2.4 เท่าของพื้นที่รวมกันทั้งหมดของกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และนครเทียนจิน นครฉงชิ่งจึงเป็นมหานครใหญ่ที่สุดของจีน 

นครฉงชิ่งเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานย้อนกลับไปจนถึงยุคสามก๊ก นครฉงชิ่งได้ชื่อว่า “เจียงโจว” แปลว่า หาดทรายกลางแม่น้ำ ในยุคใกล้ ฉงชิ่งเคยเป็นเมืองหลวงของจีนในช่วงที่ญี่ปุ่นรุกรานในทศวรรษ 1940 หลังสาธารณรัฐประชาชนจีนสถาปนาขึ้น ฉงชิ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวน ต่อมาวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1997 จีนได้ประกาศให้ฉงชิ่งเป็นนครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลางของจีน ฉงชิ่งกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการคมนาคมในภูมิภาคทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

นครฉงชิ่งมีชัยภูมิสำคัญมาก มีทั้งแม่น้ำฉางเจียง แม่น้ำสายยาวที่สุดของจีนไหลผ่าน นอกจากนี้ ยังมีแม่น้ำเจียหลิง แม่น้ำอู แม่น้ำฉี แม่น้ำฝู และแม่น้ำอีกหลายสายที่ไหลผ่านฉงชิ่งด้วย

นครฉงชิ่งยังมีอีกชื่อหนึ่ง คือ “ซานเฉิง” แปลว่า เมืองบนภูเขา  ทิศเหนือของนครฉงชิ่งมีภูเขาต้าปา ทิศตะวันออกมีภูเขาอู ทิศตะวันออกเฉียงใต้มีภูเขาอู่หลิง และทิศใต้มีภูเขาต้าโหลว

“ฉงชิ่ง” มหานครใหญ่สุดของจีน_fororder_09022

เนื่องจากมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านและมีภูเขาสูงใหญ่หลายลูกล้อมรอบ ถนนหนทางของนครฉงชิ่งจึงมีลักษณะไม่ราบเรียบและไม่เป็นเส้นตรง ยานพาหนะในการเดินทางในเมืองจึงมีความหลากหลาย มีทั้งรถยนต์สาธารณะ รถไฟฟ้า กระเช้าไฟฟ้า บันไดเลื่อน ไปจนถึงเรือข้ามฟาก เป็นต้น บันไดเลื่อนในนครฉงชิ่งแห่งที่ยาวที่สุดมีความยาว 112 เมตร เอียงทำมุม 30 องศา ทำความสูงในแนวดิ่ง 52.7 เมตร หรือเท่ากับตึกประมาณ 16 ชั้น ใช้เวลาขึ้นลงเที่ยวเดียว 2.5 นาที ส่วนค่าบริการอยู่ที่เที่ยวละ 2 หยวน/คน หรือ ราว 8 บาท

นครฉงชิ่งยังเป็นเมืองเพียงหนึ่งเดียวในจีนที่ใช้กระเช้าไฟฟ้าเป็นพาหนะเชื่อมโยงสองฝั่งแม่น้ำฉางเจียงด้วยสายเคเบิล ซึ่งมีความยาว 1,598 เมตร เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อปี 1983 จนถึงปัจจุบันขนส่งผู้โดยสารรวมกว่า 300 ล้านคน ถือเป็นกระเช้าเคเบิลคาร์ที่ขนส่งผู้โดยสารมากที่สุดในโลก

การเดินทางในฉงชิ่งถือว่าสะดวกสบายมาก ปัจจุบัน มีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วถึง 8 สาย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสาย 3 ที่สามารถนั่งตรงไปยังสนามบินได้ด้วย ซึ่งจะแตกต่างจากหลาย ๆ เมืองในจีน อาทิ เมืองซีอานเมือง เอกของมณฑลส่านซี และเมืองฉางชา เมืองเอกมณฑลหูหนาน ที่มีรถไฟฟ้าแล้วแต่ให้บริการเฉพาะในเขตเมือง ยังไม่มีไปจนถึงสนามบิน

การคมนาคมของนครฉงชิ่งมีความสะดวกสบายก็จริง แต่เนื่องจากนครฉงชิ่งอยู่บนภูเขา ถนนหนทางจึงขึ้น ๆ ลง ๆ เวลาเดินไปไหนมาไหนจึงต้องขึ้นลงบันไดและมักไม่มีใครปั่นจักรยาน นอกจากนี้  ฉงชิ่งยังมีสะพานลอยหลายชั้นวนไปวนมา จึงถูกมองว่าเป็น “เมืองที่หลงทางง่ายที่สุด”

มีรายงานว่า นครฉงชิ่งมีสะพานรูปแบบต่าง ๆ กว่า 4,500 แห่ง  ทั้งแบบคาน แบบโค้ง แบบโครง และแบบขึง ด้วยเหตุนี้ ฉงชิ่งจึงมีฉายาว่า “เฉียวตู” ซึ่งแปลว่า “นครแห่งสะพาน”

ภูมิประเทศของนครฉงชิ่งอันสลับซับซ้อน ดินฟ้าอากาศจึงมีลักษณะเฉพาะ ฤดูหนาวอากาศหนาวเหน็บ ฤดูร้อนอากาศร้อนสุด ๆ  นครฉงชิ่งเป็น 1 ใน 4 เมือง “เตาไฟ” ของจีน เช่นเดียวกับ เมืองซีอัน  เมืองหนานจิง  และเมืองหนานชาง นอกจากนี้ เนื่องจากอากาศชื้น นครฉงชิ่งยังมีหมอกปกคลุมบ่อย เฉลี่ยแล้วหนึ่งปีจะมี 104 วันที่มีหมอกลง  ซึ่งมากกว่ากรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักรที่มีหมอกเฉลี่ยปีละ 94  วัน  ด้วยเหตุนี้  ฉงชิ่งจึงมีอีกฉายาว่า “อู้ตู” หรือ “นครแห่งหมอก”

ด้านอาหารการกิน นครฉงชิ่งได้รับฉายาว่า “หั่วกัวเฉิง” หรือ  “เมืองแห่งหม้อไฟ” ฉงชิ่งไม่เพียงแต่มีร้านหม้อไฟจำนวนมาก แต่หม้อไฟของที่นี่ยังแตกต่างจากที่อื่นด้วย โดยหม้อไฟมีลักษณะเป็นช่องเล็ก ๆ  คล้ายตารางซูโดกุ สาเหตุที่ชาวฉงชิ่งประดิษฐ์หม้อไฟเช่นนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า หนึ่ง ตักง่าย ต่างคนต่างช่อง ของกินที่ใส่ลวกลงในหม้อจะไม่ปะปนกัน สอง ของกินแต่ละอย่างใช้เวลาลวกต่างกัน ของที่สุกง่ายให้ลวกอยู่ข้าง ๆ หม้อ ส่วนช่องตรงกลางมีไฟแรง ปกติใช้ลวกของที่ต้องใช้เวลานาน

คิดว่าหม้อไฟฉงชิ่งน่าจะถูกปากคนไทยแน่นอน  เพราะรสชาติเผ็ดไม่ธรรมดา ของขึ้นชื่อของนครฉงชิ่ง คือ พริกฉงชิ่งที่ว่ากันว่าเผ็ดได้ใจ เผ็ดที่สุดในเมืองจีน

“ฉงชิ่ง” มหานครใหญ่สุดของจีน_fororder_09023

หากใครไปนครฉงชิ่งในวันนี้ก็จะเห็นตึกรามบ้านช่องทันสมัย  ห้างร้านที่เปิดใหม่มากมาย และมีสินค้าแบรนเนมหลากหลายยี่ห้อจากนานาประเทศ

ย่านเจี่ยฟ่างเปย หรือ อนุสาวรีย์ปลดปล่อย เป็นศูนย์กลางของนครฉงชิ่ง ตรงกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์ปลดปล่อยประชาชน ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์รำลึกถึงชัยชนะในการทำสงครามต่อต้านญี่ปุ่น

จุดเด่นของนครฉงชิ่งอีกจุดหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ อนุสาวรีย์เจี่ยฟ่าง  คือ บริเวณประตูเฉาเทียน ซึ่งเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำฉางเจียงกับแม่น้ำเจียหลิง เป็นท่าเรือโดยสารใหญ่ที่สุดของนครฉงชิ่ง บริเวณนี้มีตึกสูงอยู่เต็มไปหมด

ย่านการค้าที่แนะนำให้เที่ยวชม คือ ย่านหงหยาต้ง ซึ่งมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แบ่งเป็นโซนหลายชั้น มีทั้งตลาดของกิน  แหล่งช้อปปิ้ง ไปจนถึงโรงแรมที่พัก โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ย่านนี้จะเปิดไฟส่องสว่างสวยงาม บรรยากาศโดยรอบได้อารมณ์แบบจีนโบราณ  ทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ ตลาดของกินย่านหงหยาต้งเต็มไปด้วยภัตตาคารมากมาย นอกจากนี้ ยังมีจุดให้ไปเดินรับลมชมวิวของแม่น้ำเจียหลิง ชื่นชมผลงานประติมากรรม เพลิดเพลินกับวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น รับรองว่าน่าจะถูกใจทั้งสายช้อปปิ้ง สายกิน และสายชอบถ่ายรูป

ย่านหงหยาต้ง เป็นย่านการค้าที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด ที่นั่นเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย จุดเด่นที่สุดของที่นั่น คือ ร้านอาคารที่สร้างขึ้นมาด้วยไม้แบบโรงเตี๊ยมในสมัยโบราณ เป็นการผสมสานกันทั้งความทันสมัยและความดั้งเดิม

ทางเดินฉือชี่โข่ว ซึ่งอยู่เลียบริมฝั่งแม่น้ำเจียหลิง ทางตะวันตกของนครฉงชิ่ง เคยได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่าแห่งเครื่องเคลือบในสมัยราชวงศ์หมิง ปัจจุบัน อาคารบางแห่งได้รับการปรับปรุงและอนุรักษ์ไว้อย่างดี กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง อาหารท้องถิ่น ขนม  ของฝาก ไปจนถึงของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว

00:00:00

  • เสียงข่าวประจำวัน (07-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (07-06-2565)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (07-06-2565)

  • เสียงข่าวประจำวัน (06-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (06-06-2565)

周旭