180 ปีสงครามฝิ่น (2)

2020-09-21 15:57:33 | CRI
Share with:

180 ปีสงครามฝิ่น (2)_fororder_P2.1

เมื่อ 180 ปีก่อน ในปีชวด “เกิงจื่อเหนียน” ปี ค.ศ. 1840สงครามฝิ่นเริ่มขึ้นในพื้นที่ชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน เป็นสงครามระหว่างอังกฤษกับราชวงศ์ชิงของจีน  โดยอังกฤษใช้กำลังทหาร 19,000 นาย ส่วนราชวงศ์ชิงใช้กำลังทหาร 91,680---200,000 นาย ทหารอังกฤษบุกรุกเมืองกว่างโจว เซี่ยเหมิน ติ้งไห่ หนิงโป นครเทียนจิน และพื้นที่อื่นๆ ของจีน

แม้ฝ่ายอังกฤษมีกำลังทหารน้อยกว่า แต่ผลปรากฏว่า อังกฤษชนะ โดยทหารอังกฤษบาดเจ็บและเสียชีวิตไปจำนวน 523 นาย ขณะที่ทหารราชวงศ์ชิง บาดเจ็บและเสียชีวิตไปจำนวน 22,790 นาย ในที่สุด มีการลงนาม “สนธิสัญญาหนานจิง” (Treaty of Nanking) ในเดือนสิงหาคมปี ค.ศ. 1842 ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดสงคราม

180 ปีสงครามฝิ่น (2)_fororder_P2.2

ผู้บัญชาการสูงสุดของราชวงศ์ชิงคือ จักรพรรดิเต้ากวาง (道光, ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ.1820---1850) การแพ้สงครามเป็นเรื่องโศกเศร้าใจยิ่ง ทำให้จีนรู้สึกอับอายขายหน้า ทำให้จีนเริ่มตกเป็นสังคมกึ่งล่าอาณานิคมและกึ่งศักดินา อธิปไตยเหนือดินแดนถูกทำลาย และสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลง

จักรพรรดิเต้ากวางประสูติในปี ค.ศ. 1782 สมัยจักรพรรดิเฉียนหลง (乾隆) ซึ่งจักรพรรดิเฉียนหลงเป็นปู่ของจักรพรรดิเต้ากวาง ช่วง “สมัยปู่” หรือ สมัยจักรพรรดิเฉียนหลง จีนยังคงมีความเจริญรุ่งเรือง ความยิ่งใหญ่ และความเข้มแข็ง แต่เวลาผ่านไป 50-60 ปี มาถึง “สมัยหลาน” หรือ สมัยจักรพรรดิเต้ากวาง จีนนับวันยิ่งอ่อนแอลง และด้อยพัฒนาเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก ปี ค.ศ.1840 เมื่ออังกฤษยกทัพปืนใหญ่มาโจมตีถึงที่บ้าน จีนก็แพ้สงครามไปอย่างน่าอับอาย ปีนั้น จักรพรรดิเต้ากวางทรงมีพระชนม์พรรษา 58 ปี

ต่อจากอังกฤษที่ลงนาม “สนธิสัญญาหนานจิง” กับจีนแล้ว อีกไม่กี่ปีต่อมา ยังมีอีกหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เบลเยียม และสวีเดน พากันมาลงนามสนธิสัญญาที่ไม่เสมอภาคกับราชวงศ์ชิงของจีน ซึ่งกำหนดให้สิทธิใดๆ ที่อังกฤษได้ ต่างชาติ ชาติตะวันตกอื่นๆ ก็ต้องได้ตามด้วย พูดง่ายๆ คือ เป็นสนธิสัญญาที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากประเทศจีนได้อย่างไม่อั้น นับว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าอัปยศที่สุดช่วงหนึ่งของชาวจีนเลยก็ว่าได้

จากปีชวด “เกิงจื่อเหนียน” ปี ค.ศ. 1840 มาถึงปีชวด “เกิงจื่อเหนียน” ปี ค.ศ. 2020 จีนพยายามต่อสู้อย่างทรหดอดทนเป็นเวลานาน 180 ปี เพื่อสานฝันแห่งประเทศจีนในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองขึ้นใหม่ให้เป็นจริงขึ้น ดั่งที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนระบุว่า “ประชาชาติจีนเคยผ่านความยากลำบากนานัปการ แต่ไม่เคยล้มแต่อย่างใด กลับยิ่งประสบยิ่งมีความกล้าหาญ เติบใหญ่ขึ้นท่ามกลางความทุกข์ยาก และฝ่าฟันไปอย่างไม่ท้อถอย”

(TIM/LING)

00:00:00

  • เสียงข่าวประจำวัน (07-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (07-06-2565)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (07-06-2565)

  • เสียงข่าวประจำวัน (06-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (06-06-2565)

何喜玲