วันที่ 8 ส.ค. 65 เป็น “วันทะเลโลก” ครั้งที่ 14 และประเด็นวันทะเลโลกของจีนปีนี้คือ “อนุรักษ์ความหลากหลายสิ่งมีชีวิตในทะเล มนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์” ซึ่งประเทศจีนตั้งอยู่ทางตะวันออกของผืนแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชีย เผชิญหน้ามหาสมุทรแปซิฟิก มีน่านน้ำประมาณ 3 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่มีความสมบูรณ์แบบทางความหลากหลายทางสิ่งมีชีวิตในทะเลาของโลกมากที่สุดประเทศหนึ่ง น่านน้ำทะเลของจีนสี่แห่งกระจายตามรูปวงกลมจากทิศใต้ถึงทิศเหนือ ได้แก่ทะเลจีนใต้ ทะเลจีนตะวันออก ทะเลเหลืองและทะเลโป๋ไห่ แต่ไหนแต่ไรมา ทะเลเพาะเลี้ยงดินแดนของจีนด้วยความใจกว้างเอื้ออารีของตน ส่วนคนจีนก็พยายามอนุรักษ์ “บ้านพักสีน้ำเงิน” อันสวยงามนี้ไว้

ทะเลจีนใต้ - ตะกร้าอันสวยงามของการเติบโตของสรรพสิ่ง

คลื่นน้ำทะเลซัดกระหน่ำหินโสโครกอย่างไม่หยุดยั้ง แสงอาทิตย์อบอุ่น ต้นมะพร้าวยืนสง่า ทำให้นักท่องเที่ยวไม่อยากจากไป ทะเลจีนใต้ที่ติดกับแผ่นดินภาคใต้ของจีนไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของ “เส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21” เท่านั้น หากยังเป็นสะพานและสายสัมพันธ์ระหว่างจีนและโลก

หลายปีมานี้ จีนดำเนินการอนุรักษ์ภาวะนิเวศในทะเลจีนใต้อย่างแท้จริง มณฑลไหหลำก่อสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ทะเลขึ้น หลายหน่วยงานเสริมสร้างการป้องกันมลภาวะให้มากยิ่งขึ้น และก่อตั้งสมาคมอนุรักษ์ทะเลมณฑลไหหลำ จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์หลายครั้ง เช่น ส่งเต่าทะเลกลับบ้าน การอนุรักษ์ฟื้นฟูชายหาด เป็นต้น ทะเลจีนใต้มีน้ำใส ชายทะเลสีเขียว หาดทรายสะอาด อ่าวที่สวยงาม ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และมีการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างสมานฉันท์ของมนุษย์  เป็นภาพวาดอันดีงามที่กำลังคลี่กางออกมากขึ้นเรื่อยๆ

ทะเลจีนตะวันออก - บ้านเกิดพญามังกรในเทพนิยายจีน

จากทะเลจีนใต้ขึ้นสู่ทิศเหนือ ก็จะเป็นทะเลจีนตะวันออก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพญามังกรตามตำนานเทพนิยายจีนโบราณ ซึ่งเชื่อว่า พญามังกรตะวันออกนั้น ไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้าพญามังกรแห่งท้องทะเลทั้งสี่เท่านั้น หากยังเป็นกษัตริย์ของสัตว์น้ำทั้งปวงด้วย  ชาวประมงมีความเคารพต่อพญามังกรตะวันออก สะท้อนถึงความยกย่องและรักษาท้องทะเลแต่โบราณของชาวจีน

ชาวจีนในพื้นที่ชายทะเลจีนตะวันออก จะถ่ายทอดความรักผูกพันอันลึกซึ้งด้วยการวาดภาพแบบชาวประมง และยืนหยัดคำมั่นสัญญาของระยะเวลางดทำประมง เพื่อคุ้มครองบ้านเกิดสีน้ำเงินให้มีชีวิตสืบไป อยู่ร่วมและสร้างความเจริญรุ่งเรืองกับทะเลไปด้วยกัน

ทุกปีตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ทะเลจีนตะวันออกจะเข้าสู่ช่วงงดทำประมงในฤดูร้อน เพื่อให้ทรัพยากรทางทะเลมีการฟื้นตัว

ทะเลเหลือง - ความงามแห่งท้องฟ้าสีครามและน้ำทะเลสีเขียว

จากทะเลจีนตะวันออกขึ้นเหนือไปอีก จะเป็นน่านน้ำที่ตั้งอยู่ระหว่างจีนและคาบสมุทรเกาหลี นั่นก็คือทะเลเหลือง ที่ได้ชื่อนี้เพราะแม่น้ำเหลืองที่มีปริมาณทรายอยู่ในน้ำจำนวนมากมายจะไหลเข้าสู่น่านน้ำแห่งนี้ ทำให้น้ำใกล้ชายฝั่งถูกย้อมเป็นสีเหลืองไปด้วย หลังจากนั้น แม่น้ำเหลืองจะเปลี่ยนเส้นทางไหลเข้าสู่ทะเลโป๋ไห่ ปัจจุบัน ทะเลเหลืองมีฟ้าใสและน้ำสะอาด จีนใช้มาตรการอนุรักษ์ทะเลเหลืองอย่างแข็งขันด้วยรูปแบบต่างๆ เช่น อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ บูรณะซ่อมแซมภาวะนิเวศในพื้นที่แถบบริเวณชายทะเล ช่วยให้น่านน้ำทะเลเหลืองสามารถบรรลุการพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้

พื้นที่ชุ่มน้ำที่ตั้งอยู่ตามชายทะเลเหลือง ไม่เพียงแต่สามารถบำรุงรักษาแหล่งน้ำให้ใสสะอาดได้ หากยังมีบทบาทในด้านการอนุรักษ์ชายทะเลและความหลากหลายทางชีวภาพด้วย หลายปีมานี้ จีนใช้มาตรการต่างๆ เช่น เปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ เปลี่ยนจุดทำประมงเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ยุติการกั้นน้ำเพื่อสร้างที่ดินตามแนวชายทะเลอย่างเข้มงวด ปี 2019 พื้นที่ชุ่มน้ำในเขตทะเลเหลืองของเมืองเหยียนเฉิง มณฑลเจียงซู ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยความสำเร็จ โดยเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของนกอพยพในทะเลเหลืองและทะเลโป๋ไห่ของจีน นับเป็นมรตกโลกทางวัฒนธรรมประเภทพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งแรกของจีน

ทะเลโป๋ไห่  - ไข่มุกอันแวววาวในภาคเหนือ

จากทะเลเหลืองขึ้นเหนือไปอีก ก็จะเป็นทะเลโป๋ไห่ น่านน้ำทางเหนือของจีน ทะเลโป๋ไห่เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นทะเลปิดอยู่ในแผ่นดิน มีแม่น้ำน้อยใหญ่ประมาณ 40 สาย ไหลลงสู่ทะเลโป๋ไห่พร้อมทรัพยากรจำนวนมากมายจากผืนแผ่นดินที่ไหลผ่าน ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งประมงธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์

การมีน้ำแม่น้ำไหลลงสู่ย่อมจะนำมลภาวะจากแผ่นดินมาด้วย หลายปีมานี้ น่านน้ำทะเลโป๋ไห่ดำเนินการบำบัดขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจนพบช่องระบายน้ำเสียเข้าทะเลประมาณ 20,000 แห่ง ข้อมุลถึงปี 2020 ระบุว่า 82.3% ของน่านน้ำในบริเวณใกล้ชายฝั่งทะเลโป๋ไห่มีคุณภาพดี ภาวะแวดล้อมและความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในทะเลก็ได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

Chu/Dan/Yim