วันที่ 1  กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 25 ปีที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงคืนสู่อ้อมอกจีน  ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา  เขตฮ่องกงได้รักษาฐานะความเป็นศูนย์กลางทางการเงิน  การค้า  และการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศ  มุ่งมั่นพัฒนาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม  อีกทั้งปฏิบัตินโยบาย “หนึ่งประเทศ  สอบระบบ” ด้วยความสำเร็จ  ซึ่งเป็นที่ยอมรับของโลก

“หนึ่งประเทศ  สอบระบบ” เป็นนโยบายพื้นฐานของจีนที่บัญญัติขึ้นเพื่อบรรลุความเป็นเอกภาพของบ้านเมืองอย่างสันติ  โดยกำหนดว่า  ภายใต้เงื่อนไขมีประเทศจีนเพียงหนึ่งเดียว  แผ่นดินใหญ่ของจีนดำเนินระบบสังคมนิยม  ส่วนเขตฮ่องกง  เขตมาเก๊า  และมณฑลไต้หวัน ดำเนินระบบทุนนิยม  นโยบายนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลายาวนาน

ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ปี 1997 จนถึงทุกวันนี้  เขตฮ่องกงได้ปฏิบัตินโยบาย “หนึ่งประเทศ  สอบระบบ” มาเป็นเวลาครบ 25 ปีแล้ว  ขณะที่ทบทวนตลอด 25 ปีที่ผ่านมาของเขตฮ่องกงจะพบว่า  เขตฮ่องกงผ่านลมฝนพายุหลายต่อหลายครั้ง  และได้เผชิญปัญหาต่าง ๆ นานา  ซึ่งทำให้ผู้คนทั้งหลายได้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นต่อนโยบาย “หนึ่งประเทศ  สองระบบ” เพื่อรักษาความมั่นคงของเขตฮ่องกง  รัฐบาลส่วนกลางของจีนได้ประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยความมั่นคงแห่งบ้านเมืองในเขตฮ่องกง  และได้ปรับปรุงวิธีการเลือกตั้งของเขตฮ่องกงตามลำดับ โดยได้จัดการเลือกตั้งคณะกรรมการเลือกตั้ง  สภานิติบัญญัติ  และผู้ว่าการเขตฮ่องกงด้วยความสำเร็จ

ด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลส่วนกลาง  และความพยายามของพลเมืองฮ่องกง  เขตฮ่องกงได้คงไว้ซึ่งชีวิตชีวาและความยึดหยุ่นทางเศรษฐกิจ  ถึงแม้ว่าได้เผชิญการท้าทายต่าง ๆ แต่เศรษฐกิจของเขตฮ่องกงยังคงพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา  ผลิตภัณฑ์มวลรวมในเขตฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น 2 เท่า มีถึง 2.8 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  มวลรวมการค้าก็ได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าเช่นกัน  มากกว่า 10 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  อยู่อันดับ 6 ของโลก  การมีงานทำได้เติบโตขึ้น 15% คิดเป็น 3.65 ล้านตำแหน่ง  จำนวนธุรกิจที่ตั้งสำนักงานใหญ่ในเขตฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น 57%  ปัจจุบัน  มีธุรกิจประมาณ 4,000 รายมีสำนักงานใหญ่ในเขตฮ่องกง

ด้านธนาคาร ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา สินทรัพย์ของเขตฮ่องกงได้เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า  มีถึง 27 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  มูลค่าเงินฝากเติบโตขึ้นเกือบ 5 เท่า  มีถึง 15 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  ส่วนเงินกู้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.6 เท่า  เป็น 10.9 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  ล่าสุด  มูลค่าเงินฝากในธนาคารต่าง ๆ ของเขตฮ่องกงมีถึง 15.3 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  อัตราการค้าของตลาดเงินตราต่างประเทศเขตฮ่องกงเพิ่มขึ้นจาก 4% มาเป็น 7.6% ของโลก  โดยลำดับได้เพิ่มขึ้นจากอันดับ 7 มาเป็นอันดับ 4 ของโลก  ขนาดการบริหารสินทรัพย์และทรัพย์สมบัติในปี 2020 เป็น 35 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  ในจำนวนนี้มี 2 ใน 3 มาจากโพ้นทะเล

ด้านตลาดหลักทรัพย์  จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเขตฮ่องกงได้เพิ่มขึ้นจาก 600 ราย มาเป็น 2,500 ราย  อัตราการค้าเฉลี่ยต่อวันทะลุ 150,000 ล้านเหรียญฮ่องกง  มูลค่าการตลาดเกิน 40 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง  ส่วนตลาดตราสารหนี้ของเขตฮ่องกงในปี 2021 มีขนาดถึง400,000 ล้านล้านเหรียญฮ่องกง

ปีหลัง ๆ มานี้  เขตฮ่องกงได้รับผลประโยชน์จากโครงการพัฒนาอ่าวใหญ่กว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า  โดยมีสะพานเชื่อมเขตฮ่องกง-เขตมาเก๊า-เมืองจูไห่ของมณฑลกว่างตง  ทางรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองกว่างโจว-เมืองเซินเจิ้น-เขตฮ่องกง  สะพานข้ามอ่าวเมืองเซินเจิ้นก็ได้เปิดให้บริการตามลำดับ  ซึ่งได้เสริมการเชื่อมโยงระหว่างเขตฮ่องกงกับเขตแดนชั้นในของจีน  นอกจากนี้  โครงการเหล่านี้ยังได้เสริมการหมุนเวียนทางบุคลากร  โลจิสติกส์  และเงินทุนระหว่างมณฑลกว่างตง-เขตฮ่องกง-เขตมาเก๊าอย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมกันนี้  รัฐบาลจีนยังสนับสนุนให้เขตฮ่องกงพัฒนาเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทางศิลปวัฒนธรรมระหว่างประเทศด้วย  ปัจจุบัน  เขตฮ่องกงเป็นตลาดการค้าผลงานศิลปะใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก

หลายปีมานี้  เขตฮ่องกงให้ความสำคัญในการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  โดยเฉพาะให้ความสำคัญในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล  โดยลงทุน 150,000 ล้านเหรียญฮ่องกงในการขยายนิคมวิทยาศาสตร์ฮ่องกง  เมืองท่าดิจิทัลฮ่องกง  และการสร้างสรรค์ห้องปฏิบัติงานการสร้างนวัตกรรม  เป็นต้น  เมื่อ 5 ปีก่อน  เขตฮ่องกงยังไม่มีธุรกิจยูนิคอร์นด้านการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ปัจจุบัน  เขตฮ่องกงมี 18 แห่งแล้ว  นอกจากนี้  จำนวนบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่ในเขตฮ่องกงได้เพิ่มจากจำนวนกว่า 2,100 แห่งในปี 2017 มาเป็น 3,700 กว่าแห่งในปัจจุบัน  มีพนักงานจำนวน 17,000 คนทำงานในนิคมวิทยาศาสตร์ฮ่องกง  เขตฮ่องกงมีห้องปฏิบัติงานระดับชาติจำนวน 16 แห่ง  มีสาขาศูนย์วิจัย  วิศวกรรม  และเทคโนโลยีระดับชาติจำนวน 6 แห่ง  สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยของเขตฮ่องกงได้มีส่วนร่วมโครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับชาติอย่างแข็งขัน  บรรดานักวิทยาศาสตร์ฮ่องกงได้มีส่วนร่วมโครงการการบินอวกาศแห่งชาติมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้  แผนการพัฒนาบ้านเมืองระหว่างปี 2021-2025 กำหนดว่า  จะสร้างสรรค์เขตฮ่องกงให้เป็นศูนย์กลางการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศ  ซึ่งจะสร้างโอกาสการพัฒนาต่อเขตฮ่องกง

นายหลี่ เจียเชา（Lee Ka Chiu John）ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงคนที่ 6 เพิ่งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา  ในพิธีสาบานตนเข้าดำรงตำแหน่ง  เขาระบุว่า  เขตฮ่องกงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างเขตแดนชั้นในกับทางสากล  ในอีก 5 ปีข้างหน้า  ทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงจะวางจุดสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ  ปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น  คุ้มครองอธิปไตย  ความปลอดภัย  และผลประโยชน์ของบ้านเมือง  พร้อมกันนี้  จะพัฒนาเขตฮ่องกงให้มีความรัก  ความกลมกลืน  และความหลากหลายมากยิ่งขึ้น（Yim/Zhou）