ทำไมหวาเหว่ยต้องตาย?

图片默认标题_fororder_1

นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหวาเหว่ย เป็นนักเล่า  เขาเคยเล่าให้สื่อมวลชนฟังว่า หวาเหว่ยจ้างนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก ที่รัสเซียมีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งทำงานให้หวาเหว่ย เขาจีบสาวไม่เป็น เพียงนั่งทำงานเงียบๆในออฟฟิศ      พอถามเพื่อนร่วมงานว่าเขาทำอะไรอยู่  ได้รับคำตอบว่าเล่นคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ไม่เห็นทำอะไร  ครั้งหนึ่งที่หัวหน้าฝ่ายบริหารนักวิจัย ที่ดูแลนักวิจัยกว่า 50,000 คน เดินทางไปเยี่ยมเขาที่มอสโก  เขาทักหัวหน้าคำเดียวว่าhello  มีครั้งหนึ่งที่เขาได้รับเหรียญสมาชิกสภาหวาเหวย ซึ่งหัวหน้าชวนเขาคุย เขาตอบเพียง"เอิน อิน เอิน"เท่านั้น แล้วหันกลับไปเล่นเกมต่อ  ทั้งๆที่กินเงินเดือนจากหัวเหวยสูงมาก  แต่กลับเล่นคอมอยู่เงียบๆกว่า 10 ปี  วันหนึ่งเขาติดต่อกับหัวหน้าแล้วบอกว่า"ผมหาวิธีทำ2Gให้เป็น3Gได้แล้ว"  หลังจากนั้นเทคโนโลยี 3G ของหวาเหว่ยก็นำหน้าทั่วโลก

อีกรายเป็นชายญี่ปุ่นชื่อโอกาโมโตะ เป็นคนแปลกมาก จบปริญญาตรีทางด้านศิลปะ จบปริญญาโทและปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา เขาวาดภาพเก่งมาก แต่พูดอังกฤษไม่ได้ หลายปีก่อน หวาเหว่ยลงทุน 10,000 ล้านหยวน สร้างสำนักงานใหญ่ซงซานหูที่เมืองตงก่วน มณฑลกวางตุ้ง  หวาเหว่ยเชิญนายโอกาโมโตะมาออกแบบและเมื่อสร้างเสร็จก็ให้เขาดูแลเขตนี้ต่อไป

นายเหริน เจิ้งเฟย เป็นคนใจกว้าง หวาเหว่ยจึงเป็นบริษัทที่เปิดกว้าง รับบุคลากรระดับหัวกะทิจากทั่วโลก  ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมให้บริการแก่ชาวโลก 3,000 ล้านคน  แต่มีประเทศหนึ่งไม่อนุญาตให้หวาเหว่ยอยู่ต่อ

วันที่ 12 เมษายน ค.ศ.2019 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวเกี่ยวกับระบบ  5G ว่า สหรัฐฯต้องชนะการแข่งขัน 5G  เราไม่อนุญาติให้ประเทศอื่นแซงหน้าด้านนี้

10 กุมภาพันธ์ 2020 ที่กรุงวอชิงตัน นายวิลเลียม บารร์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกากล่าวในการประชุมความคิดริเริ่มจีน ว่า ปัจจุบัน จีนนำหน้าด้านระบบ 5G ครองสัดส่วน 40% ตลาดโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมทั่วโลก นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาไม่สามารถเป็นผู้นำเทคโนโลยีสมัยต่อไป  คาดว่าจนถึงปี 2025 อุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ตที่มี 5Gเป็นพลังขับเคลื่อนจะสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจมูลค่า 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ  ดังนั้น เราต้องใช้ปฏิบัติการเพื่อยุติการเป็นผู้นำระบบ 5G ของหวาเหว่ยและบริษัทจีนอื่นๆ

เมื่อเร็วๆนี้ นายจอห์น โรเบิร์ต โบลตันอดีตผู้ช่วยประธานาธิบดีสหรัฐฯด้านความมั่นคง ที่เพิ่งออกจากตำแหน่งได้ไม่นาน ได้เขียนหนังสือเปิดโปงความลับในทำเนียบขาว โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่าตัวเขาเป็นผู้วางแผนคว่ำบาตรหวาเหว่ยและให้แคนาดาจับกุมนางเมิ่ง หว่านโจวลูกสาวคนโตของนายเหริน เจิ้งเฟย  ทั้งนี้ทั้งนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ว่า"ทำการค้ากับอิหร่าน" หรือ "เป็นภัยคุกคามความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา" แต่เกี่ยวข้องกับเงิน 23 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในอนาคต

ผู้สื่อข่าวเคยถามนายเหริน เจิ้งเฟยว่า "เป็นห่วงลูกสาวที่ถูกกักบริเวณอยู่ที่แคนาดาหรือไม่" นายเหรินฯตอบว่า"เป็นห่วงบ้าง แต่ไม่มาก  ตอนผมโทรศัพท์ไปที่ที่พักของเธอ คนรับสายมักเป็นคุณแม่หรือสามีของเธอที่ไปอยู่เป็นเพื่อน  เพราะลูกสาวกำลังยุ่งกับการเรียนอยู่"  เมิ่ง หว่านโจวเคยบอกกับพ่อว่าถ้าถูกตัดสินจำคุกจริงๆ เธอจะเรียนจบปริญญาเอกก่อนออกจากคุก

นายเหรินฯยังเล่าถึงอดีตว่า ตอนที่เป็นทหารดูแลสายโทรศัพท์ในพื้นที่ภูเขามณฑลเสฉวน นักเรียนที่นั่นมีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้น้อยมาก  วันหนึ่งเมิ่ง หว่านโจวมาบอกกับพ่อว่า"พ่อจ๋า ถ้าหนูสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ พ่อต้องรับผิดชอบนะ"  คำนี้ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากการเป็นทหารและพาครอบครัวไปทำงานที่เมืองเซินเจิ้นและตั้งบริษัทนิวไฮเทคระดับโลก

ภาพถ่ายชุดนี้เป็นสำนักงานใหญ่ซงซานหูที่เมืองตงก่วน มณฑลกวางตุ้ง

图片默认标题_fororder_2

图片默认标题_fororder_11

图片默认标题_fororder_12

หากชื่นชอบบทความดังกล่าว อย่าลืมกดไลก์ กดติดตาม และแชร์กับเพื่อน ๆ ค่ะ  ติดตามเนื้อหาสาระล่าสุดที่เฟสบุ๊ค เพจ “ลึกชัดกับผิงผิง” อัปเดตทุกวันค่ะ

https://www.facebook.com/doubleping.china/

ภาพและเนื้อหาข่าวเป็นลิขสิทธิ์ของ China Face