เรื่องเล่าขานจากเนินทราย “เสี่ยงซาวาน”

2019-01-18 10:00:24 | CRI
Share with:

เนินทราย “เสี่ยงซาวาน” (Whistling Dune Bay) ตั้งอยู่ในเมืองออร์ดอส เขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน เป็นส่วนตะวันออกสุดของทะเลทราย “คู่ปู้ฉี” ซึ่งเป็นทะเลทรายที่มีชื่อเสียง และอยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่งของจีนมากที่สุด

คำว่า “เสี่ยงซาวาน” มีความหมายว่า อ่าวทรายที่มีเสียง ส่วนชื่อภาษามองโกลของที่นี่ออกเสียงประมานว่า “ปู้เร่อหมังฮา” ซึ่งแปลว่า  ทะเลทรายที่มีแตร (เครื่องเป่าของพระลามะ) ทรายของที่นี่หากยังแห้งอยู่เวลาเคลื่อนที่หรือลมพัดผ่านจะมีเสียงดังคล้ายเสียงร้องของกบ เสียงรถวิ่งผ่าน หรือแม้กระทั่งเสียงเครื่องบินกำลังบินผ่านไป  สำหรับสาเหตุที่ทรายที่นี่ส่งเสียงได้นั้น มีการอธิบายไว้หลายสาเหตุ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เองเชื่อกันไปคนละแนวทางต่างกัน จึงไม่สามารถบ่งบอกสาเหตุที่แท้จริงได้ ดังนั้น จึงมีตำนานเล่าขานหลายเรื่องเกี่ยวกับที่มาของเสียงที่เกิดจากทรายของที่นี่ อย่างเช่น ว่ากันว่า ในสมัยโบราณ มีเทวดาองค์หนึ่งเดินทางทั่วโลก พอมาถึงที่นี่ก็นั่งพักผ่อนเล่นดนตรี เสียงดนตรีอันแสนไพเราะนี้จึงซึมเข้าไปอยู่ในเม็ดทราย ต่อมาคนที่เดินผ่านทะเลทรายแห่งนี้ เมื่อขุดทรายขึ้นมาก็จะได้ยินเสียงดนตรีของเทวดา นอกจากนี้แล้ว ยังมีนิทานอีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า เสียงนี้มาจากการเทศนาคัมภีร์ของพระศากยมุนี โดยว่ากันว่า มีอยู่วันหนึ่ง พระศากยมุนีพุทธเจ้าเดินทางมาถึงที่ราบสูงออร์ดอส และกำลังสวดมนต์ให้แก่ชาวพุทธ เสียงสวดมนต์จึงยังคงค้างอยู่ในเม็ดทราย ต่อมาคนที่เดินทางผ่านที่นี่จึงได้ยินคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวตามคำสอนให้ถูกต้อง

图片默认标题_fororder_20190117图二

เรื่องเล่าขานของเนินทราย “เสี่ยงซาวาน”

นานมาแล้ว มีกองทหารผู้หาญกล้ากองหนึ่ง เดินข้ามแม่น้ำเหลืองเข้าสู่ทะเลทรายคู่ปู้ฉี นายทหารชาวมองโกลนายหนึ่งที่มีชื่อว่า ปู้รื่อหว่า บาดเจ็บสาหัสเดินต่อไปไม่ไหว เขาจึงต้องพักค้างแรมอยู่ในทะเลทรายแห่งนี้ เนื่องจากแดดแรงมาก ปู้รื่อหว่าจึงรู้สึกกระหายน้ำมาก  แต่ก็ไม่มีแรงและไม่มีกำลังใจจะไปหาน้ำ พอดีมีหมาป่าตัวน้อยตัวหนึ่งหลงจากครอบครัวเดินผ่านมา หมาป่าตัวนี้จึงสนิทกับปู้รื่อหว่าในทันที ปู้รื่อหว่ารู้สึกซาบซึ้งใจและเกิดกำลังใจขึ้นมาก จึงตั้งชื่อให้ว่า ปาถูไถ และอยู่ร่วมกันเหมือนครอบครัว

ปู้รื่อหว่ากับปาถูไถเดินไปเรื่อย ๆ ในทะเลทรายเพื่อหาที่พัก อยู่ ๆ พวกเขาก็พบกับพื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่มีน้ำและมีพืชพรรณขึ้นอยู่ ผิวน้ำของทะเลสาบใสสะอาด มองเห็นหมอกจาง ๆ ลอยขึ้นพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ปรากฏเป็นเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง เทพธิดาองค์นี้บอกกับปู้รื่อหว่าว่า ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อว่า ทะเลสาบจวินหลาน พร้อมกับบอกอีกว่า เขาต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพิทักษ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ปู้รื่อหว่าจึงนำคำสั่งสอนนี้มาปฏิบัติตาม

图片默认标题_fororder_20190117图三

ข้าง ๆ ทะเลสาบจวินหลาน มีชนเผ่าทำประมงเผ่าหนึ่ง ผู้คนต่างพักในบ้านเรือนที่สร้างด้วยกิ่งไม้ใบหญ้า คนชนเผ่านี้เคารพซึ่งกันและกัน ใช้ชีวิตกลมกลืน ทุกคนต่างรักและมีอุดมการณ์พิทักษ์โลกใบนี้  ที่นี่ไม่มีสงคราม มีแต่ความเสมอภาค ทำให้ลืมความเหงา มีแต่ความอบอุ่นอยู่ตลอด ปู้รื่อหว่าจึงตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกับปาถูไถที่นี่

ปู้รื่อหว่าบอกกับหัวหน้าเผ่าว่า ตัวเขาเองเคยเป็นนายทหาร แต่เรื่องที่เขาคิดไม่ถึงก็คือ ทั้งหัวหน้าเผ่าหรือกระทั่งชาวเผ่าเองต่างไม่ถือสาที่เขาเคยเป็นทหารมาก่อนแม้แต่น้อย แถมยังเข้าใจตัวเขาเป็นอย่างดีมากอีกด้วย

ในทะเลสาบจวินหลาน มีปลาชนิดหนึ่งจำนวนมาก ปลาชนิดนี้มีชื่อว่า “ปลาจิง” เป็นปลากึ่งโปร่งใส ชาวบ้านที่นี่จะไม่จับปลาจิงมากิน เนื่องจากหากปลาจิงในทะเลสาบหายไป 1 ตัว พื้นที่ทะเลทรายก็จะขยายไปหลายลี้จนเป็นอันตรายต่อชนเผ่า ปลาจิงใช้ชีวิตได้ในทะเลสาบจวินหลานเท่านั้น ความพิเศษและเรื่องเล่าอันลึกลับนี้ได้ดึงดูดความสนใจจากจักรพรรดิและพระสนมเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงได้จัดส่งนายทหารมาจับปลาจิงที่นี่ หัวหน้าเผ่าบอกกับนายทหารว่า ปลาจิงเป็นปลาศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ทะเลสาบ แต่นายทหารก็ไม่ฟังตั้งใจจะจับให้ได้ ทหารและชาวเผ่าจึงเกิดปะทะกัน และในที่สุดปลาจิงก็ถูกจับไปเป็นจำนวนมาก

图片默认标题_fororder_20190117图四

ทะเลสาบที่ปลาจิงหายไปมากมายนั้น ทำให้เทวดาโกรธมากจนถึงขั้นตัดสินใจที่จะย้ายทะเลทรายมาแทนที่ทะเลสาบ ลูกสาวของหัวหน้าเผ่า เนื่องจากไม่ยอมเข้าวังเพื่อไปเป็นสนม จึงกระโดดลงไปในทะเลสาบจวินหลานกลายร่างเป็นปลาจิง ส่วนปู้รื่อหว่าถูกขังคุกไว้

เวลาผ่านไป ปู้รื่อหว่าพ้นโทษออกมาจากคุก ตั้งใจจะกลับไปยังที่เดิมบริเวณทะเลสาบจวินหลาน ปาถูไถก็ได้โตเป็นหมาป่าตัวใหญ่ เพื่อพิทักษ์บริเวณชนเผ่าในอดีต ปู้รื่อหว่าและปาถูไถ พร้อมฝูงหมาป่าที่ปาถูไถนำมาด้วย ได้ร่วมกันต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับศัตรูที่มารุกราน จากนั้นก็หายไปจากทะเลทราย พวกเขาไม่ได้เสียชีวิต แต่กลับขึ้นสวรรค์และบอกเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้กับอี้ว์หวงต้าตี้ หรือจักรพรรดิ์แห่งสวรรค์ อี้ว์หวงต้าตี้จึงสั่งให้เทวดาจาง กั๋วเหล่า ตั้งแม่น้ำห่านถาย เพื่อไม่ให้ทะเลทรายขยายไปทางทิศตะวันออกอีก ฉะนั้นในปัจจุบัน บริเวณริมฝั่งด้านตะวันออกของแม่น้ำห่านถายจึงมีพืชพรรณจำนวนมาก  ส่วนฝั่งตะวันตกนั้นเป็นทะเลทรายแห้งไปทั้งหมด

图片默认标题_fororder_20190117图五

ผ่านไปเป็นเวลานาน พระลามะต่างสวดมนต์และเป่าแตรเพื่อรำลึกถึงปู้รื่อหว่าและเพื่อพิทักษ์ธรรมชาติ ชาวปศุสัตว์เชื้อสายมองโกลที่นี่จึงตั้งชื่อทะเลทรายที่มีรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยวแห่งนี้ว่า "ปู้เร่อหมังฮา" ซึ่ง "ปู้เร่อ" ซึ่งมีหมายความว่า แตรของพระลามะ ส่วน "หมังฮา" คือ ทะเลทราย หรือ ภาษาจีนกลางชื่อว่า "เสี่ยงซาวาน"

Tim/Ldan

00:00:00

  • เสียงข่าวประจำวัน (07-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (07-06-2565)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (07-06-2565)

  • เสียงข่าวประจำวัน (06-06-2565)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (06-06-2565)

郑元萍