วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมว่าด้วยการคมนาคมอย่างยั่งยืนทั่วโลกแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 2 ผ่านทางระบบไกลพร้อมกล่าวสุนทรพจน์ โดยได้เสนอข้อริเริ่ม 5 ประการ เช่น ยืนหยัดการเปิดกว้างและเชื่อมต่อกัน ส่งเสริมการเชื่อมโยงและเข้าถึง ยืนหยัดการพัฒนาร่วมกัน ส่งเสริมการเอื้อประโยชน์ในวงกว้างอย่างเที่ยงธรรม ยืนหยัดพัฒนาด้วยพลังนวัตกรรม และเพิ่มแรงกระตุ้นด้านการพัฒนา เป็นต้น

ปัจจุบันจีนกำลังพัฒนาจากประเทศใหญ่ด้านการขนส่งไปเป็นประเทศเข้มแข็งด้านการขนส่ง มุ่งพัฒนาตนเองเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านการขนส่งของโลก จีนกลายเป็นประเทศที่มีการเชื่อมต่อทางทะเลมากที่สุด และมีปริมาณการค้าที่ขนส่งทางทะเลสูงสุดในโลก ขณะเดียวกันขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปได้ดำเนินการกว่า 40,000 ขบวน เข้าถึง 174 เมืองใน 23 ประเทศยุโรป นอกจากนี้จีนยังได้ลงนามเอกสารว่าด้วยความร่วมมือด้านการสร้าง"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" กว่า 200 ฉบับกับ 140 ประเทศและ 32 องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มีความร่วมมือด้านการติดต่อและเชื่อมโยงด้านการคมนาคม โดยโครงการรถไฟจีน-ลาว โครงการรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บังดุง ( Jakarta-Bandung ) ของอินโดนีเซีย โครงการรถไฟอัดดิสอาบาบา-ดีจีโบตี (Addis Ababa–Djibouti) และโครงการอื่นๆ ต่างได้ช่วยปรับปรุงวิธีการคมนาคมของประชาชนท้องถิ่นให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนทางสังคมและเศรษฐกิจของท้องถิ่นด้วย

ในที่ประชุมว่าด้วยการคมนาคมอย่างยั่งยืนทั่วโลกฯ ครั้งนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศมาตรการสำคัญได้แก่ จีนจะตั้งศูนย์สร้างนวัตกรรมและความรู้ด้านการคมนาคมอย่างยั่งยืนระหว่างประเทศของจีน นายโธมัส ออสทรัป โมลเลอร์ เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำจีน เห็นว่า ทั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและเจตนารมณ์ที่รับผิดชอบของจีนในการร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อผลักดันการพัฒนาการคมนาคมโลก ตลอดจนช่วยปฏิบัติตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2030 ของสหประชาชาติอีกด้วย

Tim/Ldan/Zhou